พระเบญจภาคี หากนักสะสมพระเครื่องเบญจภาคีปรารถนาสูงสุด คงหนีไม่พ้น พระสมเด็จวัดระฆัง พระรอดมหาวัน พระนางพญา พระกำแพงซุ้มกอ พระผงสุพรรณ พิษณุโลก ซึ่งไม่เฉพาะพระเนื้อผงหรือเนื้อดินเท่านั้น แต่ยังรวมถึง พระชุดเบญจภาคี พระเบญจภาคี เหรียญ ทางเราจะขออนุญาตให้ข้อมูลต่อไปครับ
ต้นกำเนิดของ พระเบญจภาคี
สำหรับต้นกำเนิดของการจัดชุดพระเบญจภาคีนั้น เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2490 ในสมัยนั้นผู้นิยมสะสมพระเครื่อง มีสถานที่เป็นที่พบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยน ความรู้ข่าวสาร ในวงการพระเครื่องอยู่ที่บริเวณร้านขายกาแฟของ มหาผัน เรียกกันติดปากว่า “บาร์มหาผัน” และเป็นจุดพบปะกันเป็นประจำของพ.อ.ผจญ กิตติประวัติ หรือ ท่านอาจารย์ตรียัมปวาย ,น.ท.สันทัด ร่วมกับเพื่อนอีกสองสามคน มีความคิดในเรื่องการจัดชุดพระ มาห้อยบูชากัน ซึ่งเน้นไปที่พระที่มีความสำคัญและเป็นที่นิยม จึงปรึกษากันอย่างจริงจัง
เริ่มต้นจาก พระชุดไตรภาคี
พระที่เลือกมาเป็นองค์ประธานองค์แรกก็คือ พระสมเด็จวัดระฆัง เนื่องจากมีผู้เคารพศรัทธา สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นจำนวนมาก หรือเป็นที่นิยมสุดนั่นเอง อีกทั้งยังมีพุทธคุณครอบจักรวาล ด้วยพระคาถาที่ใช้ปลุกเสกพระคือ คาถาชินบัญชร ประกอบด้วยรูปทรงของพระเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดเหมาะสม จึงนำเอาไว้เป็นองค์กลาง
เปลี่ยนเป็นพระชุดเบญจภาคี
หลังจากตั้งกลุ่มพระสามองค์หรือพระตรีมูรติได้ระยะหนึ่ง ก็พบว่า พระนางพญาพิมพ์เข่าโค้งมีขนาดเขื่อง มีขนาดต่างๆกันไว้ห้อยพระจึงเกิดแนวคิดเปลี่ยนเป็นชุดพระ 5 องค์พร้อมสร้อยครบองค์ สิ่งแรกที่นึกถึงคือพระกรุทุ่งเศรษฐี พระเม็ดขนุน ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น พระพุทธรูปเด่นด้านโภคทรัพย์ สร้างในสมัย พระมหาธรรมราชาธิราชลิไท แต่ต่อมา ได้เห็นพระเม็ดขนุนเป็นพระพุทธรูปลีลา รูปร่างรวมกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในบรรดาพระพุทธรูปกลุ่มนั้นล้วนแต่เป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งไม่ตรงกัน
พระเบญจภาคี เป็นพระที่มีประวัติมายาวนาน ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะด้านพุทธคุณ เสน่ห์ โชคลาภ และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เหล่าเซียนพระส่วนใหญ่ต่างพากันจับจองพระรุ่นนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามแต่ หากท่านต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่อง สามารถติดตามได้ที่ horalotto168